Saturday, April 19, 2025

Non-Farm Payroll คืออะไรและกลยุทธืเบื้องต้นสำหรับการซื้อขาย



Non-Farm Payroll (NFP) คือรายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐอเมริกา ซึ่งจัดทำโดยกรมแรงงานสหรัฐฯ โดยมีสาระสำคัญดังนี้:

  • ออกทุกวันศุกร์แรกของเดือน (ยกเว้นกรณีที่ตรงกับวันที่ 1 หรือวันหยุดประจำชาติ จะเลื่อนไปวันศุกร์ของสัปดาห์ที่สอง)
  • จัดทำโดยสำนักงานสถิติแรงงาน (Bureau of Labor Statistics - BLS)
  • แสดงจำนวนตัวเลขการจ้างงานในช่วงเดือนที่ผ่านมา
  • รวบรวมข้อมูลจากการสำรวจครัวเรือนและนำมาวิเคราะห์เป็นกราฟ

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงาน NFP

รายงาน NFP เป็นข้อมูลทางเศรษฐกิจที่มีความสำคัญมากที่สุดตัวหนึ่งในสหรัฐอเมริกา โดยมีรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้:

  1. ขอบเขตของข้อมูล:
    • ครอบคลุมการจ้างงานในทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ ยกเว้น:
      • ภาคเกษตรกรรม
      • ลูกจ้างในครัวเรือนส่วนบุคคล
      • พนักงานขององค์กรไม่แสวงหากำไร
      • ข้าราชการรัฐบาลกลาง
  2. วิธีการเก็บข้อมูล:
    • การสำรวจสถานประกอบการ (Establishment Survey): สำรวจนายจ้างกว่า 400,000 แห่งทั่วประเทศ
    • การสำรวจครัวเรือน (Household Survey): สัมภาษณ์ประชากรประมาณ 60,000 ครัวเรือน
  3. ข้อมูลที่รวมอยู่ในรายงาน:
    • จำนวนการจ้างงานใหม่ในแต่ละภาคส่วนของเศรษฐกิจ
    • ชั่วโมงการทำงานเฉลี่ยต่อสัปดาห์
    • รายได้รายชั่วโมงเฉลี่ย
    • อัตราการว่างงาน
    • อัตราการมีส่วนร่วมในกำลังแรงงาน (Labor Force Participation Rate)
  4. การปรับปรุงข้อมูล:
    • BLS จะทำการปรับปรุงตัวเลขย้อนหลัง 2 เดือน
    • นักวิเคราะห์มักให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงของตัวเลขที่มีการปรับปรุงด้วย

ทำไมข่าว NFP จึงมีความสำคัญ?

NFP เป็นตัวชี้วัดสำคัญของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพราะ:

  1. สะท้อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ: การจ้างงานที่เพิ่มขึ้นนำไปสู่การจับจ่ายใช้สอยที่มากขึ้น ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เพิ่มสูงขึ้น
  2. มีผลต่อนโยบายการเงิน: ธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve หรือ Fed) ใช้ข้อมูลนี้ประกอบการตัดสินใจปรับอัตราดอกเบี้ย
    • การจ้างงานสูง → อาจนำไปสู่การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพื่อลดสภาพคล่อง
    • การจ้างงานต่ำ → อาจนำไปสู่การลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
  3. ประกาศพร้อมกับอัตราการว่างงาน: ในวันเดียวกัน BLS จะรายงานอัตราการว่างงาน (Unemployment rate) ซึ่งเป็นข้อมูลที่แยกออกมาต่างหาก
  4. เป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อด้านค่าจ้าง: ข้อมูลค่าจ้างรายชั่วโมงเฉลี่ยในรายงาน NFP เป็นตัวชี้วัดสำคัญสำหรับแนวโน้มเงินเฟ้อ
    • ถ้าค่าจ้างเพิ่มขึ้นเร็วเกินไป อาจนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น
    • ธนาคารกลางอาจต้องดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
  5. เป็นสัญญาณความเชื่อมั่นทางธุรกิจ: ธุรกิจมักจะเพิ่มการจ้างงานเมื่อมองแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคตเป็นบวก
    • การจ้างงานเพิ่มขึ้น = ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจสูง
    • การจ้างงานลดลง = ธุรกิจกำลังระมัดระวังหรือกังวลเกี่ยวกับอนาคต
  6. ผลกระทบต่อตลาดการเงินหลายประเภท:
    • ตลาดหุ้น: การจ้างงานสูงอาจส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นในระยะสั้น
    • ตลาดพันธบัตร: มีผลต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
    • ตลาดทองคำ: มักเคลื่อนไหวสวนทางกับความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์

ความสัมพันธ์ระหว่างอัตราการว่างงานและ Participation Rate

เพื่อเข้าใจภาพรวมตลาดแรงงาน ต้องพิจารณาควบคู่กันระหว่าง:

  • อัตราการว่างงาน: สัดส่วนของคนว่างงานต่อกำลังแรงงานทั้งหมด
  • Participation Rate: สัดส่วนของคนที่กำลังมองหางานทำหรืออยู่ในตลาดแรงงาน

ตัวอย่าง: หากมีคน 100 คน และมีคนว่างงาน 5 คน = อัตราการว่างงาน 5% หากจำนวนคนในตลาดแรงงาน (Participation Rate) เพิ่มเป็น 110 คน โดยจำนวนคนว่างงานยังคงเท่าเดิม = อัตราการว่างงานลดลงเหลือ 4.5%

ผลกระทบต่อค่าเงินและการเทรดฟอเร็กซ์

  1. ผลต่ออัตราดอกเบี้ย:
    • NFP สูงขึ้น → Fed อาจเพิ่มอัตราดอกเบี้ย → ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า
    • NFP ลดลง → Fed อาจลดอัตราดอกเบี้ย → ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า
  2. ความผันผวนของตลาด:
    • ช่วงประกาศข่าว NFP ตลาดมักมีความผันผวนสูงมาก
    • ราคาอาจเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและคาดเดายาก
  3. ผลกระทบต่อคู่เงินหลัก:
    • EUR/USD: คู่เงินที่มีสภาพคล่องสูงที่สุดและมักได้รับผลกระทบอย่างมากจากข่าว NFP
    • GBP/USD: มักมีความผันผวนสูงในช่วงประกาศข่าว NFP
    • USD/JPY: มีแนวโน้มเคลื่อนไหวตามทิศทางของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ
    • USD/CHF: เงินฟรังก์สวิสอาจเป็นสกุลเงินปลอดภัย (Safe Haven) ในช่วงตลาดผันผวน
  4. การตอบสนองของตลาดต่อตัวเลข NFP ที่ประกาศ:
    • ตัวเลขสูงกว่าคาดการณ์: มักส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าในทันที
    • ตัวเลขต่ำกว่าคาดการณ์: มักส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่า
    • ตัวเลขตรงตามคาดการณ์: ตลาดอาจให้ความสำคัญกับปัจจัยอื่นๆ เช่น การปรับปรุงข้อมูลย้อนหลัง หรือค่าจ้างรายชั่วโมงเฉลี่ย
  5. ความสัมพันธ์กับข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ:
    • นักเทรดมักวิเคราะห์ข้อมูล NFP ร่วมกับตัวชี้วัดอื่นๆ เช่น:
      • ADP Employment Report: รายงานการจ้างงานภาคเอกชนที่ออกก่อน NFP 2-3 วัน
      • ISM Manufacturing และ Non-Manufacturing: ข้อมูลการขยายตัวของภาคการผลิตและบริการ
      • Jobless Claims: จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

กลยุทธ์การเทรดในช่วงประกาศข่าว NFP

นักเทรดมืออาชีพมักใช้กลยุทธ์ต่อไปนี้:

  1. หลีกเลี่ยงการเทรดช่วงประกาศข่าว เนื่องจากตลาดผันผวนสูง
  2. วางแผนล่วงหน้า:
    • วิเคราะห์และเปิดคำสั่งซื้อขายก่อนข่าวจะออกมา
    • กำหนด Stop Loss และ Take Profit ที่เหมาะสม
    • พิจารณาเปิดคำสั่งซื้อขายทั้งสองทิศทาง (Straddle Strategy)
  3. เทรดหลังประกาศแล้ว 5-10 นาที:
    • รอให้ตลาดเริ่มมีทิศทางที่ชัดเจน
    • สังเกตว่าหลังประกาศ 1-2 ชั่วโมง ราคามักมีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกัน
    • ระวังกรณีที่ราคามีการสวิงกลับมาที่จุดเดิม
  4. กลยุทธ์การเทรดตามข่าว (News Trading):
    • ติดตามตัวเลขคาดการณ์ (Forecast): วิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างตัวเลขจริงกับคาดการณ์
    • ดูปฏิกิริยาของตลาด: แม้ตัวเลขออกมาดี แต่ตลาดอาจไม่ตอบสนองเชิงบวกเสมอไป
    • พิจารณา Sentiment ของตลาดโดยรวม: ข่าว NFP ต้องพิจารณาร่วมกับปัจจัยอื่นๆ ด้วย
  5. การใช้เครื่องมือทางเทคนิคประกอบการตัดสินใจ:
    • ใช้ แนวรับแนวต้านสำคัญ เพื่อระบุจุดกลับตัวที่มีนัยสำคัญ
    • สังเกต รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns) หลังประกาศข่าว
    • พิจารณา ปริมาณการซื้อขาย (Volume) เพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของทิศทาง
  6. การจัดการความเสี่ยง (Risk Management):
    • ลดขนาดการเทรด (Position Size) ในช่วงที่ตลาดผันผวนสูง
    • กำหนดความเสี่ยงสูงสุดที่ยอมรับได้ต่อการเทรดในช่วงข่าว NFP
    • พิจารณาใช้คำสั่ง Trailing Stop เพื่อล็อกกำไรในกรณีที่ตลาดเคลื่อนไหวตามทิศทางที่คาดการณ์

ตัวอย่างการวิเคราะห์ตัวเลข NFP

การวิเคราะห์ตัวเลข NFP ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้:

  1. เปรียบเทียบกับตัวเลขคาดการณ์:
    • ตัวเลขจริง 250,000 ตำแหน่ง vs คาดการณ์ 180,000 ตำแหน่ง = บวกสำหรับดอลลาร์
    • ตัวเลขจริง 120,000 ตำแหน่ง vs คาดการณ์ 180,000 ตำแหน่ง = ลบสำหรับดอลลาร์
  2. การปรับปรุงข้อมูลย้อนหลัง:
    • หากมีการปรับเพิ่มตัวเลขเดือนก่อนหน้า = เสริมความแข็งแกร่งให้กับข้อมูลปัจจุบัน
    • หากมีการปรับลดตัวเลขเดือนก่อนหน้า = อาจทำให้ข้อมูลปัจจุบันอ่อนแอลง
  3. ค่าจ้างรายชั่วโมงเฉลี่ย:
    • การเพิ่มขึ้นของค่าจ้างมากกว่าคาดการณ์ = แรงกดดันเงินเฟ้อสูงขึ้น = โอกาสที่ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ย
  4. อัตราการว่างงาน:
    • อัตราการว่างงานลดลง + การจ้างงานเพิ่มขึ้น = ตลาดแรงงานแข็งแกร่ง
    • อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นแม้การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น = อาจมีคนเข้าสู่ตลาดแรงงานมากขึ้น (Participation Rate สูงขึ้น)

สรุป

ข่าว NFP เป็นตัวชี้วัดเศรษฐกิจสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ และส่งผลกระทบโดยตรงต่อค่าเงินดอลลาร์และคู่สกุลเงินต่างๆ ในตลาด Forex นักเทรดควรให้ความสำคัญกับรายงานนี้และเข้าใจผลกระทบที่มีต่อตลาด เพื่อวางแผนกลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสม

การวิเคราะห์ข่าว NFP ไม่ควรพิจารณาแค่ตัวเลขการจ้างงานเพียงอย่างเดียว แต่ควรดูปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น ค่าจ้างรายชั่วโมง อัตราการว่างงาน และ Participation Rate เพื่อให้ได้ภาพรวมที่ชัดเจนของตลาดแรงงานสหรัฐฯ และทิศทางของเศรษฐกิจ สำหรับนักเทรด Forex การเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างข่าว NFP กับการตัดสินใจของธนาคารกลางและผลกระทบต่อค่าเงินจะช่วยให้สามารถวางแผนกลยุทธ์การเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Share:

0 comments:

Post a Comment

BTemplates.com

Search This Blog

Powered by Blogger.

Blog Archive